รวมใจส่งเสด็จฯ สมเด็จพระสังฆราช


เมื่อวาน (16 ธ.ค.) เวลา 16.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมารเสด็จแทนพระองค์ไปในการพระราชทานเพลิง
พระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ เมรุวัดเทพศิรินทราวาส
ซึ่งทั่วประเทศได้จัดให้มีพิธีวางดอกไม้จันทร์เพื่อถวายความเคารพพระศพของสมเด็จพระสังฆราชฯ
ตามจุดต่างๆที่แต่ละจังหวัดกำหนดขึ้นอย่างสมพระเกียรติ โดยมีข้าราชการ ประชาชนทุกหมู่เหล่า
ร่วมพิธีอย่างคับคั่ง..


ผมมีโอกาสได้ชมการถ่ายทอดสดพิธีพระราชทานเพลิงศพฯ ในเวลาสั้นๆ ต่อด้วยเข้าไปชมสกู๊ปพิเศษ
ที่เกี่ยวกับพระจริยวัตรอันงดงามยิ่งของเจ้าพระคุณสมเด็จฯในขณะที่ยังพระชนม์ชีพ
ในเว็บไซต์รายการโทรทัศน์ต่างๆ จนรู้สึกถึงความปลาบปลื้มเป็นล้นพ้นในพระจริยวัตรและ
การทรงงานของเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ตั้งแต่ครั้งทรงบรรพชาจนได้รับพระราชทานสถาปนาเป็น
สมเด็จพระสังฆราช..
 

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเป็นที่ยอมรับจากพระเถระผู้ใหญ่
ทั้งในและต่างประเทศ ด้วยทรงมีพระปรีชาสามารถรอบด้านทั้งทางโลกและทางธรรม
ทางโลก ทรงรอบรู้เชี่ยวชาญในภาษาต่างๆมากกว่า 5 ภาษา ทรงมีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการเผยแผ่
พระธรรมไปยังประเทศต่างๆ ส่วนทางธรรม ทรงเริ่มทำกรรมฐานมาเป็นระยะเวลายาวนานและทำ
ตลอดมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่ปรากฏว่าทรงสนิทสนมคุ้นเคยและทรงปฏิบัติธรรมกับ
ครูบาอาจารย์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบหลายท่าน อาทิ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
หลวงปู่แหวน สุจิณโณ เป็นต้น..
สมเด็จเจ้าพระคุณฯทรงเชี่ยวชาญทั้งด้านปริยัติและปฏิบัติ พระธรรมเทศนาที่ตรัส
แก่พุทธศาสนิกชนจึงมีตัวอย่างที่ชัดเจน เพราะตรัสเล่าจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้น ทันต่อยุคสมัยเสมอ
และแม้พระธรรมจะลุ่มลึกตามภูมิธรรมที่ทรงมี แต่ก็ทรงใช้สำนวนภาษาที่ไพเราะ เรียบง่าย
จึงเป็นเหตุให้พระธรรมคำสอนที่ทรงถ่ายทอดซาบซึ้งเข้าถึงใจคนได้เป็นจำนวนมาก..


เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ทรงมีภารกิจมากมายทั้งด้านการศึกษา ด้านต่างประเทศ
ด้านการสั่งสอนเผยแผ่พระพุทธศาสนา และอื่นๆ และยังทรงปฏิบัติหน้าที่พิเศษ อันมีความสำคัญยิ่ง
คือ ปี พ.ศ.2499 ได้ทรงเป็นพระอภิบาล (พระพี่เลี้ยง) ในการทรงผนวชของพระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัว นับเป็นหน้าที่สำคัญพร้อมทั้งทรงถวายความรู้ในพระธรรมวินัยตลอดระยะแห่งการ
ทรงผนวช จากการที่ทรงเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถด้านต่างๆเป็นพิเศษดังที่ผมได้เขียนถึงนี้
รัฐบาลสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาจึงได้ทูลถวายตำแหน่งอภิธชมหารัฐคุรุ
อันเป็นสมณศักดิ์สูงสุดแห่งคณะสงฆ์เมียนมา และที่ประชุมผู้นำสูงสุดแห่งพุทธศาสนาโลก
เมื่อปี พ.ศ.2555 ได้ทูลถวายตำแหน่งผู้นำสูงสุดแห่งพระพุทธศาสนาโลกอีกด้วย..
หนังสือที่เจ้าพระคุณสมเด็จฯทรงพระนิพนธ์มีอยู่ด้วยกันหลากหลายร้อยเรื่อง และพระนิพนธ์ที่โด่งดัง
ที่สุด คือ เรื่อง "ชีวิตนี้น้อยนัก" ในตอนหนึ่งที่พระองค์ทรงเขียนไว้ว่า
"ทุกชีวิต ไม่ว่าคนหรือสัตว์ มิได้เป็นเพียงชีวิตนี้ คือมิได้มีเพียงชีวิตในชาตินี้ชาติเดียว แต่ทุกชีวิตมี
ทั้งชีวิตในชาติอดีต ชีวิตในชาติอนาคต ชีวิตนี้น้อยนัก หมายถึง ชีวิตในชาติปัจจุบันน้อยนัก สั้นนัก"
ซึ่งเมื่อผมได้อ่านจบเล่มแล้ว เริ่มรู้เห็นเรื่องการใช้ชีวิตของตัวเองมากยิ่งขึ้นไปอีกด้วย..


จะเห็นว่าพระองค์เป็นเนื้อนาบุญที่ยิ่งใหญ่มาก แผ่ขยายกระจายไปอย่างไม่มีกรอบ ไม่มีขอบเขต
ไม่เพียงเท่านั้นพระองค์ยังเจริญมาด้วยการใคร่ในการศึกษา ทั้งภาษาบาลี ภาษาอังกฤษ ภาษาเยอรมัน
ภาษาฝรั่งเศส กี่ภาษาในโลก พระองค์ไม่ทรงรังเกียจ พระองค์ยังเป็นพระที่ประเสริฐ ใช้ชีวิตในการ
ภาวนาตลอด จะเห็นว่า พระองค์ไปไหนมีแต่ความงดงาม ความงดงามนั้นไม่ได้มาจากเครื่องสำอางใดๆ
แต่มาจากการเติมเรื่องของภาวนาทั้งสิ้น..


และนี่คือคำพูดของพระอริยเจ้าที่ปรารภถึง เจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราชครับ..

"สังฆราชองค์นี้ ดีที่สุด" หลวงปู่ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์ จ.เลย
"พี่ชายใหญ่ของข้าพเจ้า" องค์ดาไลลามะ ผู้นำทางจิตวิญญาณของทิเบต
"มาทำไมไกลๆ ให้ลำบากลำบนถึงที่นี่ อยู่กรุงเทพฯ ถ้าอยากกราบพระดีแล้ว ก็สมเด็จวัดบวรฯนั่นแหละ"
หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง จังหวัดเชียงใหม่


สมเด็จพระสังฆราชพระองค์นี้ ยังทรงสร้างประวัติศาสตร์ที่ไม่มีใครเสมอเหมือนมากมายและผมก็เชื่อว่า
แม้ในภายหน้าก็ไม่มีใครสามารถทำได้ อาทิ
1. ทรงเจริญพรรษา 100 พรรษา กับอีก 21 วัน
2. ทรงดำรงอยู่ในเพศพรหมจรรย์ 87 ปี
3. ทรงดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบวรนิเนศวิหาร 52 ปี
4. ทรงเป็นกรรมการมหาเถรสมาคม 50 ปี
5. ทรงเป็นเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต 25 ปี
6. ทรงดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก 24 ปี

โอกาสในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระสังฆราชฯ ช่วงวันถวายความอาลัย
วันสุดท้ายวันนี้ ผมขอถือโอกาสอีกครั้งเชิญชวนชาวไทยและชาวโลกที่มีความเลื่อมใสศรัทธาต่อ
สมเด็จพระสังฆราช ได้โปรดตั้งจิตรำลึกถึงพระเมตตาการุณย์อย่างหาที่สุดมิได้ของพระองค์
รวมใจส่งเสด็จสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
สู่พระนิพพานและขอถวายอภิสัมมานสักการะอย่างสูงสุด ด้วยเศียรเกล้า..


หัสพงศ์ งานดี
polscicu@gmail.com

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

แคมเปญโฆษณา "อะเมซิ่ง ไทยเท่" ด้วยเพลง "ยามรัก"

MUZU : ศิลปินคุณภาพคับแก้วของเมืองไทย

Jetset'er วงดนตรีดีๆ นานทีจะมีสักครั้ง